โดย Xiaomi Redmi Note 4 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.0 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 506 GPU, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Fast Charging และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ MIUI 8.0 โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น RAM 3 GB l ROM 32 GB กับรุ่น RAM 4 GB l ROM 64 GB รองรับหน่วย microSD Card สูงสุด 128 GB sbobetasia.org

มาดูกันดีกว่าว่า Xiaomi Redmi Note 4 จะคุ้มค่าสมราคาแค่ไหน กับรีวิว Xiaomi Redmi Note 4 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

สเปก Xiaomi Redmi Note 4
-หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
-ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.0 GHz
-หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 506 GPU
-RAM 3 GB l ROM 32 GB หรือ RAM 4 GB l ROM 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
-กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0
-กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED
-แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Fast Charging
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
-รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
-วิทยุ FM ในตัว
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ MIUI 8.0

จุดเด่นของ Xiaomi Redmi Note 4
-บอดี้ตัวเครื่องเป็นโลหะ พร้อมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน (Full Metal Unibody)
-หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
-กระจกป้องกันหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D
-ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.0 GHz
-หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 506 GPU
-RAM 3 GB l ROM 32 GB หรือ RAM 4 GB l ROM 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
-กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0
-กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED
-แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Fast Charging
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ทั้งแบบ nanoSIM และ microSIM พร้อมใช้งานเทคโนโลยี Full Netcom 2.0
-รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
-วิทยุ FM ในตัว
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ MIUI 8.0 (อัปเดตล่าสุด)
-ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, GLONASS ระบบดาวเทียมของรัสเซีย และ Beidou ระบบดาวเทียมของจีน
-IR Blaster สัญญาณแบบอินฟราเรดในการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมทคอนโทรล โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันรีโมท (ติดตั้งไว้แล้วในตัวเครื่อง)
-ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 5,790 บาท

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
-ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 2 กับ microSD Card พร้อมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
-ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
-ในกล่องแพ็กเกจไม่มีหูฟังมาให้ ต้องหาซื้อแยกต่างหาก

[รีวิว] Xiaomi Redmi Note 4
Tagged on: