วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 9 มือถือเรือธงเพื่อการขีดเขียนรุ่นส่งท้ายปีจาก Samsung ซึ่งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า Samsung Galaxy Note-Series นั้น เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับฟังก์ชันปากกาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยคุณสมบัติของปากกา S Pen ที่นอกเหนือจากจะใช้เพื่อการขีดเขียน, วาดภาพ รวมถึงทำให้การจดโน้ตต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นแล้ว ปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Note 9 เวอร์ชันนี้ ยังรองรับการใช้งานในด้านอื่น ๆ ด้วย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปากกา S Pen คือจุดขายหลักของ Samsung Galaxy Note 9 นั่นเอง

สำหรับดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note 9 นั้น ถ้ามองในภาพรวมจะถือว่า ไม่แตกต่างจาก Samsung Galaxy Note 8 เท่าใดนัก โดยเฉพาะด้านหน้าตัวเครื่องที่ค่อนข้างจะถอดแบบมาจากรุ่นเดิม จะแตกต่างกันก็ตรงด้านหลังตัวเครื่องที่มีการย้ายตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้มาอยู่ใต้เลนส์ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากกว่าเดิมนั่นเอง ในส่วนของสเปกนั้น ถือว่าอัปเกรดจากรุ่นเดิมไม่น้อย ทั้งหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น อยู่ที่ 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล บนอัตราส่วน 18:5:9, ชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP18 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB และแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 และการชาร์จไร้สาย

ในส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้น ถือว่ามีคุณสมบัติไม่ต่างจาก Samsung Galaxy S9+ มากนัก แต่มีการเพิ่มเทคโนโลยี Recognizable AI เข้ามาที่กล้องด้านหลัง โดยกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/1.7 ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่แบบ Super Speed Dual Pixel Sensor (Dual-Camera) ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องตัวแรก (Wide Angle) มาพร้อมกับรูรับแสงแบบ Dual Aperture ขนาด F/1.5 และ F/2.4 ส่วนกล้องตัวที่สอง (Telephoto) มาพร้อมกับรูรับแสงขนาด F/2.4 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Flaw Detection สำหรับตรวจจับภาพหลังจากถ่ายเสร็จว่า ภาพที่ได้เบลอหรือไม่, มีคนกระพริบตาหรือไม่ (จับคนกระพริบตาได้สูงสุด 3 คน), ภาพย้อนแสงหรือไม่ หรือเลนส์กล้องมัว ก็จะมีคำแนะนำให้ถ่ายใหม่ เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด และฟังก์ชัน Scene Optimization กับการตรวจจับฉากและวัตถุที่ถ่ายภาพว่า ที่กำลังถ่ายอยู่นั้นคือฉากแบบไหน เพื่อจะทำการปรับสีให้อัตโนมัติและเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งสามารถตรวจจับได้สูงสุด 20 ฉาก

ด้านปากกา S Pen ถือว่า ได้รับการอัปเกรดให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างมาก ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth แล้ว อีกทั้งยังรองรับการใช้งานในหลาย ๆ ด้านนอกเหนือจากการขีดเขียนเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น สามารถใช้เป็นชัตเตอร์กล้อง, ควบคุมการนำเสนองานต่าง ๆ ได้ (Presentation), กดที่ตัวปากกาแล้วสามารถอัดเสียงใส่ปากกาได้เลย, สามารถตั้งค่าการกดปากกาเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่บนปากกา S Pen ทำได้ด้วยการเสียบกลับเข้าไปในตัวเครื่อง โดยกินพลังงานแบตเตอรี่ของเครื่องราว ๆ 0.5 mAh ซึ่งการชาร์จ 40 วินาที สามารถใช้งานได้นาน 30 นาที (กดได้ราว ๆ 200 ครั้ง)

ก่อนหน้านั้น ทีมงาน techmoblog ได้พรีวิว Samsung Galaxy Note 9 ให้อ่านกันแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว วันนี้มาชม รีวิว Samsung Galaxy Note 9 ฉบับเต็มกันบ้าง เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจให้เลือกซื้อกันมากขึ้น คุ้มหรือไม่ถ้าหากจะเปลี่ยนมาใช้ Samsung Galaxy Note 9 มาชมกันเลยดีกว่า

สเปก Samsung Galaxy Note 9
-หน้าจอแสดงผลกว้าง 6.4 นิ้ว แบบ Quad HD+ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล (516 ppi), อัตราส่วน 18:5:9
-ชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz
-หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP18 GPU
-หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
-หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
-กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.7
-กล้องคู่ด้านหลังแบบ Super Speed Dual Pixel Sensor (Dual-Camera)
          -กล้องตัวแรก (Wide Angle) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงแบบ Dual Aperture ขนาด F/1.5 และ F/2.4
          -กล้องตัวที่ 2 (Telephoto) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด F/2.4
          -ระบบโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus (PDAF)
          -ระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่แบบ Dual OIS (Optical Image Stabilization)
          -ไฟแฟลชแบบ LED Flash
-แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 และการชาร์จไร้สาย
-รองรับ Samsung Pay และ NFC
-ปากกา S Pen รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth แล้ว
          -สามารถใช้เป็นชัตเตอร์กล้อง
          -ควบคุมการนำเสนองานต่าง ๆ (Presentation)
          -ใช้อัดเสียงได้
          -ชาร์จปากกา S Pen 40 วินาที สามารถใช้งานได้นาน 30 นาที
-รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
-ระบบการสแกนอัจฉริยะ (Intelligent Scan) การยืนยันตัวตนรูปแบบใหม่ด้วยการรวมระบบสแกนม่านตากับการจดจำใบหน้าเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วในทุกสภาพแสง
-รองรับ AR Emoji มีให้เลือก 54 แบบ
-รองรับ Bixby เวอร์ชัน 2.0
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเครือข่าย 4G LTE ทั้ง 2 ซิม (Hybrid Slot)
-คุณสมบัติด้านการกันน้ำ และกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 (สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที)
-ลำโพงเสียงคู่สเตอริโอจาก AKG และระบบเสียง Dolby Atmos
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) และอินเทอร์เฟส Samsung Experience เวอร์ชัน 9.5
-ราคา 33,900 บาท

[รีวิว] Samsung Galaxy Note 9
Tagged on: