หลังจากที่แบรนด์ในตำนานอย่าง Nokia (โนเกีย) ได้หวนคืนวงการสมาร์ทโฟน ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global พร้อมกับส่งสมาร์ทโฟนราคาประหยัด 3 รุ่น ซึ่งได้แก่ Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 เข้ามาชิมลางในตลาดบ้านเราไปแล้วนั้น ล่าสุด Nokia ได้เผยโฉมมือถือรุ่นเรือธงอย่าง Nokia 8 พร้อมกับเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา sbobetasia.org

สำหรับ Nokia 8 รุ่นนี้ เรียกได้ว่า โดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกเลยก็ว่าได้ ซึ่งบอดี้ตัวเครื่องเป็นวัสดุอะลูมิเนียมซีรี่ส์ 6000 ที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน (Aluminium Unibody) อีกทั้งยังบางเฉียบและแข็งแกร่ง ส่วนสเปกตัวเครื่องนั้น จัดอยู่ในกลุ่มมือถือระดับไฮเอนด์ ด้วยหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.3 นิ้ว แบบ Polarized​ IPS LCD ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 540 GPU, หน่วยความจำ RAM แบบ LPPDDR4X ​ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB (UFS 2.1) รองรับ microSD Card, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Hybrid Slot), รองรับเทคโนโลยี NFC, กันน้ำในระดับ Splashproof (IP54) และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat)

ด้านกล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นจุดเด่นของ Nokia 8 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับเลนส์ ZEISS ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+13 ล้านพิกเซล ที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์สีและขาวดำ พร้อมรูรับแสงกว้าง F/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลชแบบ Dual-LED ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 และใช้จอภาพเป็นแสงแฟลช

นอกเหนือจากกล้องคู่แล้ว Nokia 8 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ฟีเจอร์ Bothie กับการใช้ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกันด้วยโหมด Dual-Sight อีกทั้งยังรองรับการ Live บน Facebook Live และ YouTube Live ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติเสียง Nokia OZO ที่เก็บและกระจายเสียงได้ 360 องศา เรียกได้ว่า Nokia 8 รุ่นนี้ ครอบคลุมทุกการใช้งานเลยทีเดียว

มาดูกันดีกว่าว่า การกลับมาของ Nokia ในครั้งนี้ จะคุ้มค่าสมการรอคอยหรือไม่ กับรีวิว Nokia 8 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

สเปก Nokia 8
-หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.3 นิ้ว แบบ Polarized IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (554 ppi)
-ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz
-หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 540 GPU
-หน่วยความจำ RAM แบบ LPPDDR4X ขนาด 4 GB
-หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB (UFS 2.1)
-กล้องด้านหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (เลนส์ ZEISS), รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 และ จอภาพแฟลช
-กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 13+13 ล้านพิกเซล (เลนส์ ZEISS), รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลชแบบ Dual-LED
-แบตเตอรี่ขนาด 3090 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว Qualcomm Quick Charge 3.0
-รองรับ Wi-Fi, 4G LTE และ Bluetooth 5.0
-เป็นมือถือโนเกียรุ่นแรก ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเสียง Nokia OZO ที่เก็บและกระจายเสียงได้ 360 องศาในตัว
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
-รองรับเทคโนโลยี NFC
-คุณสมบัติด้านการกันน้ำในระดับ Splashproof (น้ำกระเซ็น) ตามมาตรฐาน IP54
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat)

จุดเด่นของ Nokia 8
-วัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน (Aluminium Unibody)
-หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.3 นิ้ว แบบ Polarized IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (554 ppi) ความสว่างสูงสุดที่ 700 nits
-กระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass 5
-ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz
-หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 540 GPU
-หน่วยความจำ RAM แบบ LPPDDR4X ขนาด 4 GB
-หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB (UFS 2.1) รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB
-กล้องด้านหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (เลนส์ ZEISS), รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 และ จอภาพแฟลช
-กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 13+13 ล้านพิกเซล (เลนส์ ZEISS), รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลชแบบ Dual-LED รองรับการถ่ายภาพทั้งแบบ Vivid Colors และ Monochrome
-โหมดการถ่ายภาพแบบ Live Bokeh สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้
-โหมดการถ่ายภาพแบบ Bothie (Dual-Sight) กับการถ่ายด้วยกล้องด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกัน และสามารถกด Live ไปยัง Facebook Live หรือ YouTube Live ได้เลยทันที
-รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลัง
-ระบบเสียง Nokia OZO ที่เก็บและกระจายเสียงได้ 360 องศาในตัว พร้อมไมโครโฟน 3 ตัว
-แบตเตอรี่ขนาด 3090 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว Qualcomm Quick Charge 3.0
-รองรับ Wi-Fi, 4G LTE Cat.9 (3CA) และ Bluetooth 5.0
-รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
-รองรับเทคโนโลยี NFC และ Android Pay
-ฟีเจอร์ Always On Display แสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ ทั้งสายที่ไม่รับ, อีเมล, ข้อความที่ไม่ได้อ่าน รวมไปถึงเวลาและวันที่ แม้ว่าหน้าจอจะดับอยู่
-คุณสมบัติด้านการกันน้ำในระดับ Splashproof (น้ำกระเซ็น) ตามมาตรฐาน IP54
-ปุ่มโฮมระบบสัมผัส (Solid-State) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat) แบบ Pure Android พร้อมรองรับการอัปเดตเป็น Android 8.0 (Oreo) ในอนาคต

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

-ฝาหลังตัวเครื่องไม่สามารถถอดแกะเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
-ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2 ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดและ microSD Card ได้พร้อมกัน ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
-ตัวเครื่องไม่สามารถนำลงไปแช่ในน้ำได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติการกันน้ำในระดับน้ำกระเซ็นเท่านั้น

[รีวิว] Nokia 8 มือถือ Pure Android ระดับไฮเอนด์